f
title
แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 3
Chiangmai3 Highway District
วิสัยทัศน์ : พัฒนาสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ ควบคู่การบำรุงรักษาทางหลวง
 
ข่าวสารทางหลวง
title
คมนาคม เปิดวิ่งฟรี มอเตอร์เวย์บางใหญ่ - กาญจนบุรี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 พร้อมให้บริการทุกสุดสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภาคตะวันตก

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้ทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์2567 ที่จะถึงนี้ จึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในทุกมิติ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านและเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน” โดยได้สั่งการให้กรมทางหลวง เร่งดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทางและขนส่งสินค้า จากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันตกของประเทศ ส่งเสริม การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยบนเวทีโลก ปัจจุบัน ทล. อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง M81 โดยมีความก้าวหน้า ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 งานโยธา ร้อยละ 97.51 ส่วนงานติดตั้งระบบ เช่น ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบบริหารจัดการและควบคุมการจราจร ร้อยละ 39.08 เนื่องจากการก่อสร้างงานโยธามีความคืบหน้าจนเกือบสมบูรณ์แล้ว ทล. จึงมีแผนเปิดให้บริการ M81 เป็นการชั่วคราว โดยในช่วงสงกรานต์จะเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าออกได้ที่ด่านนครปฐมตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2567 เวลา 00.01 น. ถึงวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2567 เวลา 24.00 น. โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงที่จะสามารถเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันตกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทล. ยังมีแผนเปิดให้บริการ M81 สายบางใหญ่- กาญจนบุรี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนมีการเดินทางมากขึ้น โดยเปิดให้ผู้ใช้ทางสามารถเข้าออกได้ที่ด่านนครปฐมตะวันตกและด่านกาญจนบุรี ในทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 น. และปิดด่านวันอาทิตย์ เวลา 21.00 น. เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2567 นี้ 
title
กรมทางหลวง ขอชี้แจง กรณีหลักนำทางยางพาราที่ติดตั้งบนทางหลวงที่จังหวัดน่าน

กรมทางหลวง ขอชี้แจง กรณีหลักนำทางยางพาราที่ติดตั้งบนทางหลวงที่จังหวัดน่าน ตามที่มีข่าวปรากฎในโซเชียลขณะนี้นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า สืบเนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 - 2564 กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ได้มีการนำยางพารามาใช้ในอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตามนโยบายรัฐบาล ที่ส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ โดยใช้เสาหลักนําทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP) เพื่อสนับสนุนการใช้ยางพารา โดยบูรณาการความร่วมมือทำข้อตกลง (MOU) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์1. เพื่อช่วยยกระดับราคายางพารา เพิ่มรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและระบายผลผลิตยางพาราอย่างเป็นรูปธรรม 2. เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ลดความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากคุณสมบัติของวัสดุยางพารามีความยืดหยุ่น ต่อมา กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 เพื่อให้หน่วยงานสามารถจัดซื้อตรงกับกลุ่มเกษตรกรได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยกรมทางหลวงได้ดำเนินการจัดซื้อกับร้านค้าสหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกรที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับรองโดยตรง อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า หลักนำทางยางธรรมชาติที่ผลิต ได้ทำการออกแบบ ตามมาตรฐานตามข้อกำหนด โดยคณะกรรมการร่วมหลายฝ่าย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้ทาง และประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกรชาวสวนยาง ในภาวะที่ราคายางตกต่ำช่วงปีที่ผ่านมา โดยแขวงทางหลวง เป็นผู้ดำเนินการซื้อโดยตรงจากสหกรณ์ชาวสวนยาง และนำมาติดตั้ง เมื่อเดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ในสายทางที่มีอุปกรณ์นำทาง (เสาหลักนำทาง , Guide Post) ไม่ครบถ้วน หรือทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย เพื่อนำทางแก่ผู้ใช้ทางในเวลากลางคืน หรือในขณะที่มีทัศนวิสัยไม่ดี รวมถึงลดความรุนแรงและความสูญเสียจากยานพาหนะที่เสียหลักไปชนเสาหลักนำทาง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่เสียหลักจะมีความเสี่ยงทำให้เกิดการเสียชีวิต ทั้งนี้ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาผลิตหลักนำทางยางธรรมชาตินั้น ตามแบบด้านในให้เป็นเสาหลักกลวง มีความยืดหยุ่น ดังนั้นในการติดตั้งบนทางหลวง จึงได้มีการประยุกต์ใส่แกนลงในเสา เช่น ไม้ไผ่ ไม้ยูคา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดตั้ง และสามารถติดตั้งได้รวดเร็วขึ้น สำหรับการคิดราคากลางในการจัดซื้อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของของทางราชการ ซึ่งราคาเสาหลักนำทาง จะแปรผันตามราคายางพารา อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินการติดตั้งเสาหลักนำทางยางพาราบนทางหลวง เป็นไปตามหลักวิศวกรรมงานทาง เพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้ทาง และเป็นการช่วยเหลือเกษตรชาวสวนยาง ในช่วงที่ราคายางตกต่ำ และขอยืนยันว่า เป็นการดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตามระเบียบ กฏหมายที่เกี่ยวข้อง ทุกประการ หากประชาชนมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูล หรือต้องการขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
title
กรมทางหลวงชวนเช็กอินแลนด์มาร์คแห่งใหม่ จ.อุตรดิตถ์ “ถนนสายดอกคูน” เหลืองอร่ามยาวที่สุดในภาคเหนือ

กรมทางหลวง โดย แขวงทางหลวงอุตรดิตถ์ที่ 1 เชิญชวนผู้ใช้ทางชมความสวยงามของถนนสายดอกคูน จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่บานพร้อมกันในช่วงฤดูร้อนของทุกปี เป็นแนวยาวที่สุดในภาคเหนือ ซึ่งจะออกดอกให้ชื่นชมปีละครั้งเท่านั้น พร้อมทั้งดำเนินการเตรียมความพร้อมปรับปรุงทางหลวงให้สวยงาม  ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้สั่งการให้กรมทางหลวงเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และปรับปรุงทัศนียภาพทางหลวง ให้มีความสวยงาม ถนนสายดอกคูน หรือดอกราชพฤกษ์ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 117 ตอน  พญาแมน - ไร่อ้อย ระหว่าง กม.190+500 - กม.193+500 ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ในพื้นที่ ต.คอรุม   อ.พิชัย  จ.อุตรดิตถ์  ขณะนี้เริ่มออกดอกบานสะพรั่งเต็มสองข้างทาง ซึ่งจะออกดอกยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ดึงดูดความสนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไป - มา กลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์ค หรือจุดเช็กอินแห่งใหม่ของอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวจากสี่แยกบ้านกร่าง อำเภอเมือง จ.พิษณุโลก ขับตรงไปบนทางหลวงหมายเลข 12 และกลับรถหน้าวัดเมมสุวรรณาราม ผ่านปั๊มน้ำมัน ปตท.เขื่อนนเรศวรบริเวณ กม.210+200 ประมาณ 500 เมตร และเลี้ยวซ้ายขับตรงไปบนทางหลวงหมายเลข 117 มุ่งหน้าอำเภอพรหมพิราม จ.พิษณุโลก  ขับตรงไปตลอดจนผ่านสถานีตำรวจภูธรพญาแมน  ตำบลพญาแมน  อำเภอพิชัย  จังหวัดอุตรดิตถ์  จนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ  ตำบลท่ามะเฟือง จะพบถนนดอกคูนที่สวยงามสองข้างทาง ระหว่าง กม.190+500 – กม.193+500 ถนนสายดอกคูนเกิดจากประชาชนในพื้นที่ร่วมกันปลูกต้นดอกคูนตลอดสองข้างทางกว่า 1,000 ต้น นอกจากนี้ยังสามารถแวะสักการะและชมพิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหักได้อีกด้วย กรมทางหลวงขอความร่วมมือประชาชนที่จะถ่ายภาพโปรดจอดยานพาหนะบริเวณสองข้างทางอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงไม่กีดขวางการจราจรบนทางหลวง และขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างปลอดภัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม  ไม่ทำให้ดอกไม้เกิดความเสียหาย โปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขภายใต้วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ “ท่องเที่ยวสุขใจ ห่างไกลโควิด - 19” สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)